ข่าวและกิจกรรม

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศกล่าวถ้อยเเถลงในที่ประชุม คณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 34

10/03/2017

นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถ้อยเเถลงในที่ประชุม

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 นายวีระศักดิ์ ฟูตระกูล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้กล่าวถ้อยแถลงในช่วงการประชุมระดับสูงของการประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 34 ณ สำนักงานสหประชาชาติ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ร่วมกับผู้นำและรัฐมนตรีของประเทศต่าง ๆ

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถึงแนวโน้มและสิ่งท้าทายของโลกในการรักษาและเคารพสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการจัดการกับวิกฤตการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ ในโอกาสนี้ ได้นำเสนอแนวคิดในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนผ่านการหารืออย่างสร้างสรรค์เพื่อแสวงหาความร่วมมือการเสริมสร้างทัศนคติที่ดีในการเคารพสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในเยาวชน การใช้ประโยชน์จากสื่อสังคมออนไลน์เพื่อให้สร้างความกลมเกลียวแทนความแตกแยกและเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน การสนับสนุนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจและภาคประชาสังคม เพื่อร่วมกันส่งเสริมการเคารพสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย การแบ่งปันประสบการณ์ และเสริมสร้างขีดความสามารถในการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน

ในโอกาสเดียวกัน รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งที่ประชุมถึงพัฒนาการต่าง ๆ ของไทย ซึ่งรวมถึงการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ผลักดันการพัฒนาโดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง การลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และการส่งเสริมการเข้าถึงโอกาสทางสังคมและกระบวนการยุติธรรม โดยหลังจากไทยได้ผ่านกระบวนการทบทวนสถานการณ์สิทธิมนุษยชน (ยูพีอาร์) รอบที่ 2 คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแผนปฏิบัติการเพื่อผลักดันการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะที่ไทยได้ตอบรับพร้อมคำมั่นโดยสมัครใจต่อไป

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถึงพัฒนาการอย่างต่อเนื่องในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของไทย อาทิ (1) การถอนข้อสงวนข้อ 4 ของอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการเลือกปฏิบัติทางเชื้อชาติในทุกรูปแบบ (2) การดำเนินโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้าและโครงการการศึกษาภาคบังคับฟรีถ้วนหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้พยายามขยายโอกาสให้ครอบคลุมไปถึงผู้โยกย้ายถิ่นฐานด้วย (3) มติคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลและคนไร้สัญชาติในประเทศไทยเมื่อเดือนธันวาคม 2559  ซึ่งทำให้เด็กไร้สัญชาติกว่า 80,000 คน สามารถยื่นขอสัญชาติไทยได้ตามกฎหมาย และ (๔) คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหลักการแก้ไขพระราชบัญญัติว่าด้วยคนเข้าเมืองและการจัดตั้งระบบคัดกรองเพื่อให้สามารถแยกกลุ่มและให้การดูแลผู้ที่จำเป็นต้องได้รับความคุ้มครองอย่างแท้จริงได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งได้รับการรับรองโดยการลงประชามติของประชาชน ยังเน้นย้ำหลักการของสิทธิมนุษยชนด้านต่าง ๆ ที่รวมถึงความเท่าเทียมและการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย การไม่เลือกปฏิบัติ การห้ามการทรมาน และเสรีภาพในการนับถือศาสนา

อ่านเพิ่มเติม
ถ้อยเเถลงของคณะผู้เเทนไทย 


เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง

ย้อนกลับ